Regulation Name | ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดประเภทของเรือสนับสนุนการประมง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 |
Notification date | 28 Jun 2018 |
Enforcement date | 28 Jun 2018 |
Summary by TTIA
ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดประเภทของเรือสนับสนุนการประมง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ลงนามโดยนายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีผลบังคับใช้วันที่ 28 มิถุนายน 2561
สาระสำคัญ
เนื่องจากปัจจุบันมีเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต เรือกลเดินทะเลชายแดน เรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศ ประเภทการใช้บรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมัน (จุดวาบไฟ < 60 oC) และประเภทการใช้บรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมัน(จุดวาบไฟ > 60 oC) ขนาด 30 – 1,000 ตันกรอส ซึ่งใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุแล้วและยังไม่ได้ยื่นขอต่ออายุใบอนุญาต แต่ยังมีรายชื่ออยู่ในทะเบียนเรือไทย และมีเรือบรรทุกสินค้าทั่วไป ที่มีระบบเครื่องทําความเย็นในระวางสินค้า หรือมีความยาวระวางสินค้า < 4 เมตร สามารถใช้บรรทุกน้ำแข็งเพื่อรักษาอุณหภูมิในระวางสินค้าได้ มีความเสี่ยงที่ให้การสนับสนุนการทําการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกประกาศไว้ ดังนี้
- ประกาศฉบับนี้มิให้ใช้บังคับแก่เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมัน ดังนี้
1) เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันเตา ต้องมีการระบุในใบอนุญาตใช้เรือโดยชัดเจน
2) เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันซึ่งมีการทําสัญญาโดยตรงกับบริษัทน้ำมันในประเทศไทย ให้เป็นผู้จัดส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันระหว่างคลังน้ำมันในประเทศไทย หรือขนส่งระหว่างคลังน้ำมันในประเทศไทยกับต่างประเทศ
- กําหนดให้เรือบรรทุกสินค้าทั่วไปที่มีระบบเครื่องทําความเย็นในระวางสินค้า หรือมีความยาวระวางสินค้า < 4 เมตร ที่เปลี่ยนประเภทการใช้เรือจากประเภทเรือที่ใช้ทําการประมง เรือที่ใช้ขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น ขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอสขึ้นไป เป็นเรือสนับสนุนการประมงที่ต้องติดตั้งระบบ VMS และแจ้งเข้าออกท่าเทียบเรือประมง
- เจ้าของเรือหรือผู้ครอบครองเรือ ต้องติดตั้งระบบ VMS พร้อมแจ้งเปิดสัญญาณต่อศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและคาดการณ์สถานการณ์ด้านการประมง (FMC) ให้แล้วเสร็จ ภายใน 30 วัน กรณีมีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจําเป็นอื่นใดอันทําให้ไม่สามารถติดตั้งระบบติดตามเรือได้ทันภายในกําหนด ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองเรือ แจ้งให้อธิบดีกรมประมงทราบก่อนสิ้นสุดระยะเวลา และจะต้องติดตั้งระบบติดตามเรือพร้อมแจ้งเปิดสัญญาณต่อศูนย์ FMC ให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่อธิบดีกําหนด