อบรมหลักสูตร "Climate Risk on Business" สำหรับผู้บริหาร
ในวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2568 สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย และ สมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย ร่วมกับสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดอบรมหลักสูตร “Climate Risk on Business” สําหรับผู้บริหาร ภายใต้โครงการจัดทำแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์และการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร(CFO) ของอุตสาหกรรมทูน่าและอาหารสัตว์เลี้ยง ปีที่ 2 ณ สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน จุฬาฯ โดยมีสมาชิกเข้าร่วม 15 บริษัท 20 คน นำโดย คุณวรวีร์ เลขาธิการ, คุณสมบูรณ์ อุปนายก, คุณเกรียงชัย ประธาน คกก.เทคนิค, คุณชุติมา คกก.เทคนิค, คุณสุพัตรา ผอ. พร้อมด้วยผู้แทนจาก SEAPAC, MMP, UC, ISA, ITC, TU, TUM, RS, ST, DMF, TCB, CMC, AEC, SK, PFG สรุปดังนี้
กรอบยุทธศาสตร์ 4G for ZERO CARBON: โครงการนำเสนอร่างยุทธศาสตร์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ Net Zero ภายในปี 2050 ผ่าน 4 แนวทางหลัก คือ
– Green Energy: ใช้พลังงานสะอาด
– Green Waste Management: จัดการของเสีย น้ำเสีย และใช้ผลพลอยได้
– Green Procurement: จัดซื้อวัตถุดิบที่ยั่งยืนจากซัพพลายเชนคาร์บอนต่ำ
– Green Network: สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อลดคาร์บอนทั้งอุตสาหกรรม
ผลการดำเนินงานโครงการปีที่ 1 (1 ก.ย.67-30 ก.ย.68) ข้อมูลปี 2024 ของอุตสาหกรรมทูน่าและอาหารสัตว์เลี้ยง ระบุว่าสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอุตสาหกรรมมาจาก Scope 3 สูงที่สุด (81%), ตามด้วย Scope 1 (11%) และ Scope 2 (8%) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการจัดการซัพพลายเชนและวัตถุดิบเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการลดคาร์บอนของอุตสาหกรรมปลาทูน่า
สรุปการอบรมหลักสูตร “Climate Risk on Business”
1. ความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Risk) ของประเทศไทย
ประเทศไทยมีความเสี่ยงสภาพภูมิอากาศสูง สูญเสียกว่า 2.2 ล้านล้านบาทใน 20 ปีจากน้ำท่วม–ภัยแล้ง และเหตุการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้นจากภาวะโลกร้อน ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมปลาทูน่าต้องเผชิญความเสี่ยงด้าน “การเปลี่ยนผ่าน” จากกฎระเบียบใหม่ เช่น IUU, ภาษีคาร์บอนทางเรือ, มาตรฐาน MSC และเทคโนโลยีตรวจสอบย้อนกลับที่ต้องลงทุนสูง รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปหาสินค้าคาร์บอนต่ำ ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว
นอกจากนี้กฎหมาย PPWR ของ EU จะบังคับใช้จริงตั้งแต่ 12 ส.ค.69 โดยตั้งเป้าลดขยะ เพิ่มรีไซเคิล และแบนบรรจุภัณฑ์รีไซเคิลต่ำกว่า 70% ปี 2030 กระทบหนักต่อซองรีทอร์ทและบรรจุภัณฑ์หลายชั้น
2. ก้าวทันเทรนด์โลกร้อน สู่…การรับรองจาก TGO
– เป้าหมายด้าน climate ของประเทศไทย จากการประชุม COP30: ลดก๊าซเรือนกระจก 47% ภายในปี 2035, บรรลุ Carbon Neutrality และเร่งบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050
– ร่าง พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (อยู่ระหว่างผลักดัน): ระบบซื้อขายคาร์บอน ETS (ภาคบังคับ), ภาษีคาร์บอน และมาตรการคาร์บอนข้ามพรมแดน, ระบบ คาร์บอนเครดิต และกองทุนภูมิอากาศ, การรายงานก๊าซเรือนกระจกแบบบังคับ Scope 1–3 สำหรับนิติบุคคล (thumbtack)โดยเล็งเริ่มใช้ พ.ร.บ. และ Pilot ETS ในปี 2569/ เริ่ม ETS Phase 1 ปี 2570 และ Phase 2 ปี 2576
– เครื่องมือและการรับรองโดย TGO: Carbon Footprint (สินค้า/องค์กร), ฉลากลดโลกร้อน, CE-CFP, ระบบ CFO (Scope 1–3) มีองค์กรเข้าร่วมแล้วกว่า 1,700 แห่ง, การชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) และการรับรอง Carbon Neutral / Net Zero, โครงการ T-VER สำหรับลด/ชดเชยการปล่อยในหลากหลายภาคส่วน (พลังงาน ป่าไม้ ขนส่ง ฯลฯ)
3. Transforming Business Towards Low Carbon Society โดย KBank
KBank ตั้งเป้า Net Zero สำหรับการดำเนินงานปี 2030 และ Net Zero พอร์ตการเงินในระยะยาว พร้อมวงเงินสินเชื่อยั่งยืน 400,000–500,000 ล้านบาท (ทำได้แล้วกว่า 173,000 ล้าน ณ ส.ค. 68) ธนาคารบริหารความเสี่ยงสภาพภูมิอากาศทั้งในองค์กรและพอร์ตลูกหนี้ โดยกำหนดแผนลดคาร์บอนสำหรับอุตสาหกรรมปล่อยสูง และใช้กรอบสินเชื่อสีเขียวครอบคลุมหลายด้าน เช่น พลังงานหมุนเวียนและขนส่งสะอาด รวมถึงมีนโยบายสินเชื่อ ESG สำหรับประมงและแปรรูปปลาที่เน้นความโปร่งใสและไม่สนับสนุนประมงผิดกฎหมาย
4. ประยุกต์ใช้…แนวปฏิบัติเพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยง โดย CPF
CPF ตั้งเป้า Net Zero ปี 2050 และได้รับการรับรองจาก SBTi ตามเป้าหมาย 1.5°C รายแรกของโลกในอุตสาหกรรมอาหาร โดยลดการปล่อยจากพลังงานและการใช้ที่ดิน ทั้งนี้มากกว่า 60% ของการปล่อยมาจากภาคเกษตร (FLAG) จึงเน้นใช้พลังงานหมุนเวียน ยกเลิกถ่านหิน เปลี่ยนวัตถุดิบที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า และทำโครงการพัฒนาคู่ค้าเพื่อลดผลกระทบในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด
5. ESG แนวปฏิบัติเพื่อการบริหาร จัดการความเสี่ยง
อุตสาหกรรมปลาทูน่ามีความสำคัญระดับโลก แต่เผชิญแรงกดดันจากปัญหาความหลากหลายทางชีวภาพ ภาวะโลกร้อน และกรอบรายงานใหม่ เช่น SDGs, CSRD, ESRS ที่กลายเป็นข้อกำหนดสำหรับผู้ส่งออก การแข่งขันยุคใหม่ต้องอาศัยกลยุทธ์ ESG เช่น การวัดและลดคาร์บอน การใช้เศรษฐกิจหมุนเวียน และการเข้าร่วมมาตรฐานสากล โดยมีตัวอย่างจากผู้นำอุตสาหกรรม เช่น Thai Union ที่เดินหน้าลดคาร์บอน จัดหาวัตถุดิบที่มีการรับรอง และร่วมต่อต้านประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจัง